หัวข้อประวัติความเป็นมาของการแต่งงาน

Marriage2

พิธีแต่งงาน หรืองานแต่งงาน เป็นหนึ่งในพิธีที่สำคัญของช่วงชีวิตคนเรา ถือเป็นพิธีที่น่ายินดีที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เป็นเวลาที่มีแต่บรรยากาศความสุขความหวานชื่น ทว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ถึงประวัติความเป็นมาของพิธีแต่งงาน ว่าเริ่มขึ้นเมื่อใดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ พิธีแต่งงานมีความเป็นมารวมถึงมีความหมายอย่างไรบ้าง

หากจะย้อนไปในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ได้มีการบันทึกไว้ถึงการแต่งงานในเริ่มต้นเราจะพบได้จากเรื่องราวของ อาดัมและเอวา ในสวนเอเดน พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้กล่าวถึงการแต่งงานครั้งแรกที่พระเจ้าได้ทรงเป็นผู้จัดการ โดยได้ทรงสร้างเอวา เจ้าสาวของอาดัม แล้วมอบให้แก่อาดัม เป็นการแต่งงานที่เรียบง่ายที่มีพระเจ้าทรงเป็นสักขีพยาน เป็นผู้อนุญาต ในพระคัมภีร์ฉบับปฐมกาลว่า

แล้วพระเยโฮวาห์พระเจ้าได้ทรงกระทำการให้อาดัมนอนหลับสนิท และ พระองค์จึงได้ทรงชักกระดูกชิ้นซี่โครงอันหนึ่งของอาดัมออกมา ทรงได้ทำให้เนื้อที่ซี่โครงของเขาติดกัน กระดูกซี่โครงที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าได้ทรงชักออกมาจากชายนั้น พระองค์ทรงเนรมิตให้เป็นหญิงคนหนึ่ง แล้วพระองค์ก็ทรงนำเธอมาให้ชายนั้น เมื่อเขาตื่นเห็นหญิงนั้น จึงกล่าวว่า “บัดนี้ นี่เป็นกระดูกมาจากกระดูกของเรา เนื้อนี้ก็มาจากเนื้อของเรา จะต้องเรียกเธอว่าหญิง(Woman) เพราะว่าหญิงผู้นี้ออกมาจากกายของชาย(Man) เหตุฉะนั้นผู้ชายละจากบิดามารดาของเขา เพื่อจะไปผูกพันอยู่กับภรรยา เขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” เขาทั้งสองจะเปลือยกายอยู่ ผู้ชายและภรรยาของเขาโดยไม่มีความอาย… ปฐมกาล บทที่ 2 ข้อ 21-25

Marriagemangirl

อีกหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพิธีแต่งงานที่เก่าแก่รองลงมาก็คือ สมัยก่อนพุทธกาล คือการแต่งงานของพระบิดากับพระมารดาของพระพุทธเจ้า เกิดขึ้นโดย พระเจ้าสีหหนุ กษัตริย์แห่งกรุงกบิลพัสดุ์พระราชบิดาของพระสิริสุทโธทนะ ได้ให้เหล่าพราหมณ์ 8 คนไปเ สาะหาหญิงที่คู่ควรแก่ราชโอรส เหล่าพราหมณ์เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ จนได้ไปพบกับพระนางสิริมหามายา พระราชธิดาของ พระเจ้าธนาธิปะ ผู้เป็นกษัตริย์ของนครเทวทหะ จึงได้ใช้พวงมาลัยคล้องที่พระศอของพระนางเพื่อเป็นการหมั้นหมาย เห่าพราหมณ์เข้าเฝ้าพระเจ้าธนาธิปะ สู่ขอพระนางเมื่อได้รับอนุญาต จึงมีการจัดงานสมรสขึ้นที่สวนลุมพินีวัน ทางระหว่างเมือง เทวทหะและกบิลพัสดุ์ พิธีจัดขึ้น มีพระเจ้าสีหหนุจูงมือสิริสุทโธทนะพระกุมารเข้าสู่พิธี ส่วนนางสุชาดาจูงมือพระนางสิริมหามายาเข้าพิธี คู่บ่าวสาวจับพระหัตถ์มีพราหมณ์สวดพระเวทและเป่าแตรสังข์ นั่นคือพิธีในสมัยนั้น

สมัยโรมันเมื่อประมาณ500 ปีหลังพุทธกาล เริ่มมีแหวนแต่งงานขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นสัญลักษณ์ในการจับจองเป็นเจ้าของ ในยุคแรกแหวนยังคงทำจากเหล็กเกลี้ยง ๆ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นอัญมณีประดับบนเรือนปหวนที่ทำจากทองคำขาว จากนั้นจึงเป็นการประดับเพชรที่หัวแหวนในศตวรรษที่ 18 ที่มีการค้นพบเพชร แหวนแต่งงานถูกสวมลงในนิ้วนางข้างซ้ายที่ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นนิ้วที่มีเส้นเลือดตรงไปยังหัวใจ

จวบจนทุกวันนี้พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้นตามแต่กลุ่มชน เชื้อชาติ ความเชื่อ รูปแบบที่แตกต่างกันออกไป  ทว่าก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ เป็นประเพณีที่แสดงถึงความรักและการจัดตั้งสถาบันครอบครัว สถาบันที่เป็นจุดเริ่มต้นของมนุษย์ทุกคนและเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเป็นทางการด้วย